เปิดร้านลูกชิ้นทอดกำไรดีไหม ลงทุนเท่าไร? ตอบครบทุกข้อสงสัย
สาระน่ารู้

อยากขายลูกชิ้นทอดต้องเตรียมอะไรบ้าง? บทความนี้มีคำแนะนำ

สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากเริ่มต้นเป็นเจ้านายตัวเอง เชื่อว่าธุรกิจแรกที่หลายคนนึกถึงคือ “เปิดร้านขายลูกชิ้นทอด” เพราะดูแล้วเป็นของกินที่ใครๆ ก็กินได้ ตั้งแต่เด็กอนุบาลถึงคนทำงานเลยค่ะ แถมหน้าร้านก็ไม่ต้องใหญ่ ใช้อุปกรณ์ไม่เยอะ อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจไม่มีคำว่าง่าย การเปิดร้านขายลูกชิ้นปิ้งลูกชิ้นทอดก็เช่นเดียวกันค่ะ เพราะถ้าไม่วางแผนให้ดี กำไรที่คิดว่าจะได้อาจจะกลายเป็นขาดทุนจนเข้าเนื้อได้ง่ายๆ เลยค่ะ บทความนี้จึงจะพาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกกันแบบหมดเปลือกว่าการเปิดร้านขายลูกชิ้นทอดต้องเตรียมอะไรบ้าง ลงทุนเท่าไร กำไรดีจริงไหม และบริหารยังไงให้รอดในยุคที่คู่แข่งเยอะขนาดนี้

ลงทุนเปิดร้านลูกชิ้นทอดต้องใช้เงินเท่าไร ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง?

คำถามแรกที่เพื่อนๆ น่าจะอยากรู้ที่สุดคือ “ขายลูกชิ้นทอดต้องลงทุนเท่าไร?” และ “อุปกรณ์ขายลูกชิ้นทอดมีอะไรบ้าง?”อย่างไรก็ตาม ไม่มีคำตอบที่ตายตัวค่ะ เพราะการขายลูกชิ้นทอดเป็นอาชีพที่ยืดหยุ่นมาก งบหลักพันก็เริ่มได้ งบหลักหมื่นก็ยิ่งได้ร้านที่ดีขึ้นไปอีก โดยสามารถแบ่งระดับการลงทุนออกเป็น 4 แบบให้เห็นภาพง่ายๆ ค่ะ

แบบที่ 1 : สายงบน้อย ตั้งโต๊ะขายได้เลย (หน้าบ้าน/ตลาดนัด)

  • แบบนี้ประหยัดสุด เหมาะสำหรับคนมีทำเลหน้าบ้านตัวเอง หรือเช่าแผงเล็กๆ ในตลาด
  • อุปกรณ์ : ใช้โต๊ะพับพลาสติกหรืออะลูมิเนียม, เตาแก๊สปิกนิก/เตาฟู่, กระทะใบเดิมจากครัวที่บ้าน
  • รวมเงินลงทุนเบื้องต้น : ประมาณ 3,000-5,000 บาท (ไม่รวมค่าวัตถุดิบและค่าเช่า) เริ่มต้นง่าย ใช้เงินทุนน้อยที่สุดค่ะ

แบบที่ 2 : สายเข็น เน้นทำเลทอง (รถเข็น)

  • ทางเลือกสำหรับเพื่อนๆ ที่คิดว่าการใช้รถเข็นไปจอดขายหน้าโรงเรียน หน้าโรงงาน หรือย่านออฟฟิศต่างๆ คือกลยุทธ์ที่ดี
  • อุปกรณ์ : รถเข็น (มือหนึ่งหรือมือสองก็ได้), ตู้กระจกกันฝุ่น, ชุดหัวเตาแก๊สพร้อมถัง 15 กก.
  • รวมเงินลงทุนเบื้องต้น : ประมาณ 8,000-15,000 บาท (ไม่รวมค่าวัตถุดิบ)

แบบที่ 3: สายซิ่ง วิ่งหาลูกค้า (รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง)

  • เหมาะมากสำหรับคนที่มีมอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว และไม่อยากรอลูกค้าอยู่กับที่ แต่จะบุกไปหาลูกค้าเองตามหมู่บ้าน ไซต์งานก่อสร้าง หรือหน้าโรงเรียน
  • อุปกรณ์ : รถพ่วงข้างพร้อมหลังคากันแดด, ชุดเตาบนรถ, ตู้กระจกขนาดย่อม, ลำโพงไว้เรียกลูกค้า
  • รวมเงินลงทุนเบื้องต้น : ประมาณ 7,000-12,000 บาท (ไม่รวมค่ารถมอเตอร์ไซค์และค่าวัตถุดิบ) ข้อดีคือเข้าถึงลูกค้าได้ทุกตรอกซอกซอย ยอดขายมักจะดีกว่าการเปิดร้านอยู่กับที่ค่ะ

แบบที่ 4: จัดเต็ม เน้นแบรนด์ (แฟรนไชส์)

  • วิธีนี้ง่ายสุดแต่ก็ใช้เงินเยอะที่สุดเช่นกันค่ะ นั่นก็คือการซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ดังมาเปิด โดยทางเจ้าของแฟรนไชส์จะเตรียมอุปกรณ์ขายลูกชิ้นทอดให้ทุกอย่างตั้งแต่ซุ้มขาย วัตถุดิบ จนถึงน้ำจิ้ม
  • รวมเงินลงทุนเบื้องต้น : 20,000-50,000 บาท++ (ไม่รวมค่าเช่าที่และค่าวัตถุดิบ) ข้อดีคือมีป้ายชื่อร้านที่คนรู้จักอยู่แล้ว การันตีความอร่อย แต่ก็แลกมากับต้นทุนที่สูงกว่าค่ะ

คำนวณต้นทุนลูกชิ้นทอดแบบชัดๆ 1 ไม้มีต้นทุนแฝงอะไรบ้าง?

หลายคนตกม้าตายตรงนี้ค่ะ เพราะเห็นลูกชิ้นถุงละ 60 บาท เอามาเสียบไม้ขายได้ตั้งหลายร้อยบาท นึกว่ารวยแน่ๆ แต่ที่ไหนได้ลืมคิด "ต้นทุนแฝง" ไปเสียสนิท ดังนั้น เพื่อให้เพื่อนๆ รู้ความจริงให้รอบด้านก่อนตัดสินใจเปิดร้านลูกชิ้นทอด เดี๋ยวจะคำนวณให้ดูแบบชัดๆ ไปเลยค่ะว่าลูกชิ้นทอด 1 ไม้มีต้นทุนแฝงอะไรบ้าง

สมมติเราซื้อลูกชิ้นหมูเกรดกลางๆ (ผสมแป้งบ้าง แต่อร่อย)

  • ราคาเฉลี่ย : 70 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม (ประมาณ 1 ถุง)
  • จำนวนลูก : 1 กิโลกรัม มักจะมีประมาณ 45-50 ลูก (แล้วแต่ขนาด)
  • การเสียบไม้ : ถ้าเสียบไม้ละ 4 ลูก จะได้ประมาณ 12-13 ไม้
  • ราคาขาย : ขายไม้ละ 10 บาท จะได้เงินกลับมา 120-130 บาท
  • กำไรขั้นต้น : ดูเผินๆ เหมือนจะได้กำไรเกือบ 100% (ซื้อ 70 ขายได้ 130)

แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ! อย่าเพิ่งดีใจไป เพื่อนๆ ต้องไม่ลืมหักค่าใช้จ่ายเหล่านี้ออกด้วย เพราะเป็นต้นทุนแฝงของการเปิดร้านขายลูกชิ้นทอด เช่น

  • ค่าเช่าที่ (ในกรณีที่ไม่มีที่เป็นของตัวเอง)
  • ค่าน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ (กรณีเลือกขายแบบใช้รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง)
  • ค่าน้ำมันทอด
  • ค่าแก๊ส
  • ค่าไม้เสียบ + ถุง + กระดาษซับมัน
  • ค่าวัตถุดิบทำน้ำจิ้ม

สรุปแล้ว กำไรสุทธิจริงๆ ที่จะเข้ากระเป๋าเราอยู่ที่ประมาณ 30-40% ของยอดขายค่ะ เช่น ขายได้วันละ 2,000 บาท กำไรจริงๆ ที่หักทุกอย่างแล้วอาจจะเหลือประมาณ 600-800 บาท ซึ่งก็ถือว่าดีกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความขยันของแต่ละคนด้วยค่ะ

รวมเคล็ดลับเพิ่มโอกาสขายดีที่ทำตามได้จริง

เมื่อเพื่อนๆ รู้เรื่องต้นทุน กำไร รวมถึงอุปกรณ์ขายลูกชิ้นทอดที่จำเป็นกันไปแล้ว คราวนี้มาถึง “หัวใจสำคัญ” ที่จะชี้ชะตาว่าการเปิดร้านลูกชิ้นทอดของเราจะรอดหรือจะร่วง เพราะต้องยอมรับว่าคู่แข่งร้านลูกชิ้นมีเยอะมาก ตั้งแต่หน้าปากซอยยันท้ายซอย แล้วทำยังไงให้ลูกค้าเลือกเรา? นี่คือเคล็ดลับที่เพื่อนๆ ต้องจดไว้เลยค่ะ

  • “น้ำจิ้ม” คือลมหายใจของร้าน : ต่อให้ลูกชิ้นจะอร่อยเทพแค่ไหน ถ้าน้ำจิ้มไม่เด็ดคือจบค่ะ! ตรงกันข้ามถ้าลูกชิ้นธรรมดา แต่น้ำจิ้มรสเด็ด ลูกค้าก็พร้อมให้อภัยและกลับมาซื้อซ้ำแน่นอน ดังนั้น ถ้าอยากเปิดร้านขายลูกชิ้นทอด เพื่อนๆ ต้องศึกษาสูตรน้ำจิ้มให้ดีเพื่อให้ได้น้ำจิ้มที่อร่อยที่สุด โดยควรมี 2 แบบ คือ แบบเผ็ด (พริกแห้งคั่วหอมๆ) และแบบหวาน (สำหรับเด็ก) จะได้กินได้ทุกวัยค่ะ

  • อย่าทอดทิ้งไว้จนเย็นชืด : ลูกชิ้นทอดคือของกินเล่นที่ต้องกินร้อนๆ ถึงจะกรอบอร่อย ถ้าเพื่อนๆ ทอดกองไว้เป็นภูเขา พอเย็นแล้วจะเหี่ยว เหนียว และอมน้ำมัน ลูกค้าเห็นก็ไม่อยากซื้อค่ะ แนะนำให้ทอดใหม่เมื่อลูกค้าสั่ง นอกจากลูกค้าจะได้กินลูกชิ้นกรอบๆ ร้อนๆ แล้ว ยังสร้างกลิ่นหอมยั่วน้ำลายให้คนเดินผ่านไปมาได้ด้วย

  • น้ำมันต้องใส : ไม่มีใครอยากกินลูกชิ้นที่ทอดในน้ำมันดำปี๋แน่นอนค่ะ ยอมเปลี่ยนน้ำมันบ่อยหน่อย ลูกค้าเดินผ่านมาเห็นน้ำมันเหลืองทองน่ากินก็มีโอกาสขายได้มากกว่าค่ะ

  • ใช้กฎ “มาก่อน ออกก่อน” : เวลาซื้อลูกชิ้นถุงใหม่มา ให้เอาของเก่าที่เหลือมาวางขายข้างหน้าก่อนเสมอ อย่าเอาของใหม่ไปทับของเก่าจนบูดคาตู้

  • เลือกเกรดลูกชิ้นที่พอดี : คิดจะเปิดร้านลูกชิ้นทอดอย่าเน้นแต่ของถูกที่สุดที่แป้งเยอะๆ ทอดแล้วเหี่ยวไว แนะนำให้เลือกเกรดที่ดีขึ้นมาอีกระดับ เนื้อสัมผัสเด้งสู้ฟัน ยอมจ่ายแพงกว่าถุงละ 10-20 บาท แต่ลูกค้าติดใจ คุ้มค่ากว่าเยอะค่ะ

  • ผักเคียงต้องสด : แตงกวาต้องกรอบ กะหล่ำปลีต้องสด ล้างให้สะอาด หั่นวางโชว์สวยๆ เชื่อว่ามีหลายคนซื้อลูกชิ้นเพราะอยากกินผักแกล้มน้ำจิ้มนี่แหละค่ะ

  • ความเร็วคือเรื่องสำคัญ : ลูกชิ้นทอดคือ Fast Food ของไทยแท้ๆ ลูกค้าส่วนใหญ่รีบ ดังนั้น ถ้าเราทำช้า หรือดูงกๆ เงิ่นๆ ลูกค้าอาจมาซื้อครั้งเดียวแล้วไม่กลับมาซ้ำได้ค่ะ

  • โปรโมชันคลาสสิก “ซื้อ 10 แถม 1” : นี่คือเทคนิคจิตวิทยาชั้นเยี่ยม เพราะลูกค้าจะพยายามซื้อให้ครบ 10 ไม้เพื่อเอาของแถม จากที่จะซื้อแค่ 30-40 บาท ก็ขยับยอดขายเป็น 100 บาทได้ง่ายๆ โดยเราเสียต้นทุนของแถมแค่ไม่กี่บาท

อยากเปิดร้านแต่ขาดเงินทุน? ขับรถคู่ใจมาปรึกษาเงินเทอร์โบได้เลย

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เพื่อนๆ คนไหนสนใจอยากเปิดร้านขายลูกชิ้นทอดเป็นของตัวเอง แต่ติดปัญหาใหญ่คือ “เงินทุน” ที่จะไปยืมคนอื่นก็เกรงใจ หรือจะควักเงินเก็บที่มีอยู่น้อยนิดก็กลัวจะไม่พอหมุนเวียนในชีวิตประจำวัน อย่าเพิ่งถอดใจนะคะ โดยเฉพาะเพื่อนๆ ที่มี “รถมอเตอร์ไซค์” หรือ “รถยนต์” อยู่แล้ว สามารถเข้ามาปรึกษาเงินเทอร์โบเรื่องเงินกู้ด่วนได้เลย

✅ ได้เงินเร็ว ไม่ต้องรอนาน

✅ รถยังมีใช้ตามปกติ ไม่ต้องจอดทิ้งไว้

✅ ดอกเบี้ยเป็นธรรม ผ่อนสบาย ช่วยให้บริหารเงินหมุนเวียนง่ายขึ้น

✅ ไม่ต้องมีคนค้ำ สมัครง่าย

✅ มีสาขาใกล้บ้านทั่วประเทศ เพียงค้นหาว่า “จำนำรถใกล้ฉัน เงินเทอร์โบ” ก็เจอเลย

สนใจสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน ลองแวะไปสอบถามรายละเอียดได้ที่สาขาเงินเทอร์โบใกล้บ้าน หรือกรอกข้อมูลสมัครที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 15-24% ต่อปี
*เงื่อนไขและการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด