รถเสียฉุกเฉินกลางทางต้องทำยังไง? บทความนี้บอกครบทุกขั้นตอน
รถยนต์

ขั้นตอนรับมือสถานการณ์รถเสียข้างทาง พร้อมเบอร์โทรที่ควรรู้

“รถเสียกลางทาง” เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่สำหรับใครที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์นี้ บอกเลยว่านาทีนั้นร้อยทั้งร้อย “ทำตัวไม่ถูก” แน่นอนค่ะ เพื่อนๆ หลายคนอาจรู้สึกว่าใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม สมองคิดไปร้อยแปดจะโทรหาใครดี จะลงไปเข็นรถไหวไหม รถคันหลังจะชนเราหรือเปล่า อย่างไรก็ดี ไม่ต้องกังวลไปนะคะเพื่อนๆ เพราะบทความนี้จะมาแชร์วิธีรับมือสถานการณ์รถเสียฉุกเฉินแบบทีละขั้นตอน สามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อให้เพื่อนๆ รอดจากสถานการณ์คับขันไปได้อย่างปลอดภัยที่สุดค่ะ

ขั้นตอนที่ 1: ตั้งสติ แล้วเปิด “ไฟฉุกเฉิน” ทันที

ทันทีที่เรารู้สึกว่ารถเริ่มมีอาการแปลกๆ เช่น เหยียบคันเร่งไม่ขึ้น เครื่องยนต์กระตุก หรือมีไฟเตือนโชว์ที่หน้าปัด สิ่งที่ต้องทำคือ “ตั้งสติให้มั่น อย่าสติแตกเด็ดขาด” จากนั้นให้เพื่อนๆ เปิดไฟฉุกเฉิน (ไฟผ่าหมาก) ทันทีค่ะ เพื่อส่งสัญญาณบอกเพื่อนร่วมทางคันหลังว่า “รถฉันมีปัญหานะ อย่าจี้ท้ายนะ”

การเปิดไฟฉุกเฉินจะช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้มาก เพราะรถคันหลังเขาจะได้ระวังและเบี่ยงหลบเราได้ทันค่ะ จำไว้นะคะ มือข้างหนึ่งจับพวงมาลัย มืออีกข้างกดปุ่มไฟฉุกเฉินทันทีค่ะ

ขั้นตอนที่ 2: ประคองรถเข้าไหล่ทาง (ถ้าทำได้)

ถ้าเครื่องยนต์ยังพอมีแรงเหลือ หรือรถยังไหลได้ด้วยแรงเฉื่อย ให้เพื่อนๆ พยายามประคองรถเข้าชิดขอบทางด้านซ้าย หรือไหล่ทางให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ มองกระจกซ้ายดีๆ ให้สัญญาณมือโบกขอทางถ้าระบบไฟเลี้ยวใช้งานไม่ได้ แล้วค่อยๆ เบี่ยงลงไหล่ทางค่ะ

ข้อควรระวัง:

  • อย่าเบรกกะทันหัน: เพราะรถคันหลังอาจจะชนท้ายเราได้ ให้ค่อยๆ แตะเบรกชะลอความเร็วค่ะ
  • ถ้ารถดับกลางเลนขวาสุด: อันนี้อันตรายมากค่ะ ถ้ารถขยับไม่ได้จริงๆ ให้เปิดไฟฉุกเฉิน นั่งอยู่ในรถ (คาดเข็มขัดนิรภัยไว้) แล้วรีบโทรแจ้งตำรวจทางหลวงหรือกู้ภัยทันที อย่าพยายามลงมาเข็นรถกลางถนนเด็ดขาดถ้าการจราจรหนาแน่น เพราะเสี่ยงต่อการถูกชนมากค่ะ

ขั้นตอนที่ 3: ประเมินอาการรถเบื้องต้น

เมื่อรถจอดนิ่งและอยู่ในบริเวณที่ปลอดภัยแล้ว ลองมาดูอาการกันหน่อยค่ะว่ารถเราเป็นอะไร เพื่อจะได้โทรขอความช่วยเหลือรถเสียได้ถูกต้อง

  • ความร้อนขึ้น: สังเกตเข็มความร้อนถ้าตีขึ้นไปจนสุด หรือมีควันพุ่งออกมาจากฝากระโปรงหน้ารถ ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำเด็ดขาด! ย้ำว่าห้ามเปิดตอนร้อนๆ นะคะ เพราะน้ำเดือดจะพุ่งใส่หน้า ลวกผิวหนังบาดเจ็บสาหัสได้เลย ให้เปิดฝากระโปรงระบายความร้อน แล้วรอจนกว่าเครื่องจะเย็นสนิทค่ะ
  • สตาร์ตไม่ติด (เงียบกริบ): บิดกุญแจแล้วเงียบ ไม่มีเสียงอะไรเลย ไฟหน้าปัดไม่โชว์ อาการรถเสียข้างทางแบบนี้มักจะเป็นที่ขั้วแบตเตอรี่หลวม หรือแบตเตอรี่หมดเกลี้ยงค่ะ
  • สตาร์ตไม่ติด (มีเสียงแชะๆ): บิดกุญแจแล้วมีเสียงสตาร์ตแต่เครื่องไม่ติด เหมือนคนไม่มีแรง อันนี้แบตเตอรี่เสื่อมแน่นอนค่ะ ถ้ามีสายพ่วงแบตฯ ก็โบกรถขอความช่วยเหลือขอต่อพ่วงได้เลย
  • ยางแตก/ยางระเบิด: ถ้าได้ยินเสียงดังปัง! แล้วพวงมาลัยดึงไปข้างใดข้างหนึ่ง แสดงว่ายางพังไปแล้วค่ะ ต้องเปลี่ยนยางอะไหล่ ถ้าเพื่อนๆ เปลี่ยนไม่เป็น ข้ามไปขั้นตอนการโทรเรียกช่างเลยค่ะ อย่าฝืนเปลี่ยนเองริมถนนใหญ่ เพราะอันตรายมากๆ เลยค่ะ

ขั้นตอนที่ 4: โทรขอความช่วยเหลือ

ปัญหาสำคัญของเพื่อนๆ หลายคนเวลารถเสียกลางทางคือไม่รู้โทรหาใครดี โดยเฉพาะถ้ารถเสียฉุกเฉินในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตยิ่งแย่สุดๆ ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้น แนะนำให้เพื่อนๆ จดหรือบันทึกเบอร์ฉุกเฉินรถเสียดังต่อไปนี้ลงเครื่องไว้เลยค่ะ

  • 191: แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย (กรณีรถเสียในที่เปลี่ยว หรือเกิดอุบัติเหตุ)
  • 1193: ตำรวจทางหลวง (ทั่วประเทศ)
  • 1543: สายด่วนการทางพิเศษ (กรณีรถเสียบนทางด่วน)
  • 1137: จส.100 (ช่วยประสานงานกู้ภัย หรือช่างอาสาในพื้นที่)
  • 1644: สวพ.91 (คล้าย จส.100 ช่วยประสานงานได้ดีมาก)

เบอร์ประกันภัยรถยนต์: ส่วนใหญ่เขามีบริการ Roadside Assistance ช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี พวกรถยก รถลาก หรือช่างเติมน้ำมัน ฉุกเฉิน 24 ชม. ลองเช็กสิทธิ์ดูนะคะ

เวลาโทรแจ้งต้องบอกอะไรบ้าง?

  • บอกตำแหน่งให้ชัด: รถเสียอยู่ที่ถนนเส้นไหน ขาเข้าหรือขาออก หลักกิโลเมตรที่เท่าไร หรือจุดสังเกตใหญ่ๆ เช่น ปั๊มน้ำมัน โรงเรียน วัด
  • บอกอาการรถ: สตาร์ตไม่ติด, ยางแตก, ความร้อนขึ้น, หรือมีควัน
  • บอกข้อมูลเรา: ชื่อ เบอร์โทรติดต่อกลับ ยี่ห้อรถ สีรถ ทะเบียนรถ

ขั้นตอนที่ 5: รออย่างปลอดภัย

หลังจากโทรหาเบอร์ขอความช่วยเหลือรถเสียข้างต้นไปแล้ว ระหว่างรอช่างหรือกู้ภัย นี่คือช่วงเวลาที่เพื่อนๆ ต้องระวังตัวที่สุดค่ะ

  • ถ้ารถจอดบนไหล่ทางแคบๆ: อย่าไปนั่งรอในรถค่ะ ให้ทุกคนลงจากรถ แล้วไปยืนรอหลังแนวราวเหล็กกั้นถนน หรือบนเนินหญ้าที่ห่างจากถนน เพราะถ้าระหว่างนั้นมีรถบรรทุกหลับในพุ่งชนท้ายรถเรา อย่างน้อยตัวเราก็ปลอดภัยค่ะ
  • ถ้ารถเสียในที่เปลี่ยวตอนกลางคืน: ให้รออยู่ในรถและล็อกประตูรถทุกบาน แง้มกระจกนิดเดียวพอให้อากาศถ่ายเท แล้วโทรบอกญาติพี่น้องให้รู้พิกัด แชร์โลเคชันในไลน์ทิ้งไว้ และคอยสังเกตคนแปลกหน้า ถ้ามีใครมาเคาะกระจก อย่าเพิ่งเปิดประตูพรวดพราด ให้คุยผ่านกระจกที่แง้มไว้นิดเดียวก่อนค่ะ
  • งดเล่นมือถือเพลิน: ให้เก็บแบตมือถือไว้ติดต่อฉุกเฉิน และคอยมองดูสถานการณ์รอบข้างตลอดเวลาค่ะ

หมดปัญหาเรื่องค่าอะไหล่ เพียงขับรถคู่ใจมาปรึกษาเงินเทอร์โบ

รถเสียว่าเครียดแล้ว แต่พอเห็นบิลค่าซ่อมยิ่งเครียดหนักกว่าเดิมใช่ไหมคะ? ทั้งค่าอะไหล่ ค่าแรงช่าง สารพัดรายจ่ายที่ไม่ได้เตรียมตัวไว้ จะปล่อยรถทิ้งไว้ก็ไม่ได้ เพราะต้องใช้ทำมาหากินทุกวัน ถ้าเพื่อนๆ เจอปัญหาค่าซ่อมบานปลาย หมุนเงินไม่ทัน ให้เล่มทะเบียนรถในมือช่วยกู้วิกฤต แวะมาขอเงินกู้ด่วนกับ “เงินเทอร์โบ” ได้เลยค่ะ เพราะ…

✅ ได้เงินเร็ว ไม่ต้องรอนาน

✅ รถยังมีใช้ตามปกติ ไม่ต้องจอดทิ้งไว้

✅ ดอกเบี้ยเป็นธรรม ผ่อนสบาย ช่วยให้บริหารเงินหมุนเวียนง่ายขึ้น

✅ ไม่ต้องมีคนค้ำ สมัครง่าย มีสาขาใกล้บ้านทั่วประเทศ

สนใจสมัครสินเชื่อรถยนต์ หรือจะหาซื้อประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ เพื่อนๆ สามารถลองแวะไปสอบถามรายละเอียดได้ที่สาขาเงินเทอร์โบใกล้บ้าน หรือกรอกข้อมูลสมัครที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 15-24% ต่อปี
*เงื่อนไขและการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

**ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนการตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
***ให้บริการโดยบริษัท เงินเทอร์โบ อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด ซึ่งเป็นเพียงนายหน้าประกันวินาศภัยเท่านั้น รับประกันภัยโดยบริษัทประกันภัยในพันธมิตรของเงินเทอร์โบ