เมื่อสายไฟขาดพาดโดนรถ ต้องทำยังไง?

เมื่อสายไฟขาดพาดโดนรถ ต้องทำยังไง?

เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยเห็นข่าวที่มีรถชนเสาไฟฟ้าหรือมีพายุพัดเสาไฟฟ้าล้มจนเกิดอุบัติเหตุทำให้มีสายไฟที่ยังมีกระแสไฟฟ้ามาพาดโดนรถที่เรากำลังขับอยู่ วันนี้เงินเทอร์โบ มีวิธีปฏิบัติเพื่อเอาตัวรอดมาให้เพื่อนๆ ได้อ่าน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากันได้นะคะ ไม่ว่าสายไฟฟ้าจะพาดมาโดนรถด้วยเหตุผลใด เงินเทอร์โบขอแนะนำว่า สิ่งที่เพื่อนๆ ต้องทำคือ ตั้งสติก่อนเป็นอันดับแรก แล้วทำตามวิธีต่อไปนี้ได้เลยค่ะ

🙋🏻‍♀️ กรณีเป็นผู้ประสบเหตุเอง

1. อย่าตกใจให้นั่งอยู่ในรถก่อน ห้ามก้าวขาลงจากรถโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้ถูกไฟดูดได้และไม่แตะต้องรถในส่วนที่เป็นโลหะ จากนั้นสำรวจความเสียหายโดยรอบ

  • หากรถไม่เสียหายมากสามารถใช้การได้ให้ขยับรถออกนอกบริเวณที่มีสายไฟฟ้าอย่างน้อย 10 เมตร
  • หากรถไม่สามารถใช้การได้ให้นั่งรออยู่ในรถจะปลอดภัยที่สุด
  • หากรถเกิดไฟไหม้หรือจำเป็นต้องออกจากรถ ให้สวมรองเท้า แล้วกระโดดออกจากรถ โดยให้ขาชิดติดกันเก็บมือสองข้างไว้ข้างหน้าและกระโดดขาคู่หรือขาเดี่ยวลงมาบนพื้นในขณะที่ขาถึงพื้น ห้ามให้มือหรือร่างกายไปแตะโดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรถเด็ดขาด เมื่อลงจากรถได้แล้วให้กระโดดต่อไปหรือค่อยๆ ขยับเดินลากเท้าโดยให้เท้าทั้งสองชิดกันจนกว่าจะพ้นพื้นที่อันตราย ห้ามก้าวเท้ายาวหรือวิ่งเด็ดขาด

2. แจ้งผู้ที่อยู่บริเวณนั้นหรือผู้ที่ต้องการเข้ามาช่วยเหลืออย่าเข้าใกล้รถ ให้ออกห่างจากรถอย่างน้อย 10 เมตร

3. โทรแจ้ง 1129 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือแจ้งสายด่วน 1130 การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตัดกระแสไฟฟ้าและแจ้งหน่วยงานสาธารณภัยในพื้นที่เพื่อเข้าช่วยเหลือ

💁🏻‍♀️ กรณีเป็นผู้พบเจอเหตุการณ์

1. หากพบเห็นรถของคนอื่นมีสายไฟฟ้าพาดโดนตัวรถ อย่าเพิ่งเข้าใกล้รถคันนั้น เพราะอาจมีกระแสไฟฟ้ากระจายอยู่รอบบริเวณนั้น ให้อยู่ห่างจุดที่เกิดเหตุมากกว่า 10 เมตร

2. โทรแจ้ง 1129 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือแจ้งสายด่วน 1130 การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตัดกระแสไฟฟ้าและแจ้งหน่วยงานสาธารณภัยในพื้นที่หรือถ้ามีคนได้รับบาดเจ็บให้โทรเรียกรถพยาบาล เพื่อขอความช่วยเหลือทัน

ที่มา :
การไฟฟ้านครหลวง