อยากกู้เงินเรียนต่อ ต้องกู้ที่ไหนดี ? รวมไว้ที่เดียว !
ปลดล็อกการศึกษา รวมวิธีกู้เงินเรียนต่อแบบครบถ้วน
การศึกษาถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของอนาคต แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นั้นอาจเป็นภาระหนักสำหรับหลาย ๆ คน ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาแหล่งกู้เงินเพื่อการศึกษา วันนี้เรารวบรวมตัวเลือกที่น่าสนใจมาให้แล้วค่ะ มาดูกันเลยว่าแต่ละแหล่งมีเงื่อนไขอะไรบ้าง และเหมาะกับใคร
1. กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
เรียกได้ว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดของคนรักเรียนแต่ไม่อยากหยุดฝันเลยล่ะค่ะ โดย กยศ. (กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา) คือหน่วยงานของรัฐที่ตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการกู้เงินเรียนต่อ
ใครบ้างที่กู้ กยศ. ได้ ?
ไม่ใช่แค่นักศึกษาปริญญาตรีนะคะ แต่สามารถกู้เงินเรียนได้ตั้งแต่มัธยมปลาย สายสามัญ สายอาชีพ ไปจนถึงปริญญาตรีเลย โดยแบ่งเป็น 5 ลักษณะ ดังนี้ค่ะ
- สำหรับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ (ครอบครัวมีรายได้ไม่เกินปีละ 360,000 บาท)
- สำหรับผู้ที่ศึกษาในสาขาที่เป็นความต้องการหลักของประเทศ
- สำหรับผู้ที่ศึกษาในสาขาขาดแคลน หรือที่กองทุนส่งเสริมเป็นพิเศษ
- สำหรับผู้ที่เรียนดีเพื่อสร้างความเป็นเลิศ (ระดับปริญญาโท)
- ลักษณะอื่นตามความจำเป็นและเหมาะสม
วงเงินกู้ยืม กยศ. ได้เท่าไร ?
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ค่าเล่าเรียน 14,000 บาท/ปี ค่าครองชีพ 21,600 บาท/ปี - ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
ค่าเล่าเรียน 21,000 บาท/ปี ค่าครองชีพ 36,000 บาท/ปี - ระดับปวท./ปวส. หรือเทียบเท่า
ค่าเล่าเรียน 25,000-60,000 บาท/ปี ค่าครองชีพ 36,000 บาท/ปี - ระดับอนุปริญญา/ปริญญาตรี
ค่าเล่าเรียน 50,000-200,000 บาท/ปี ค่าครองชีพ 36,000 บาท/ปี - ระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต
ค่าเล่าเรียน 200,000 บาท/ปี ค่าครองชีพ 36,000 บาท/ปี - ระดับปริญญาโท
ค่าเล่าเรียน 80,000-200,000 บาท/ปี ค่าครองชีพ 36,000 บาท/ปี
วิธีขอทุน กยศ. ทำยังไง ?
ง่ายนิดเดียวค่ะ แค่ทำตาม 4 ขั้นตอนนี้
1. เช็กกำหนดการให้กู้ยืม เข้าไปดูที่เว็บไซต์ กยศ. โดยตรงเลยว่าตอนนี้เปิดให้กู้เงินเพื่อการศึกษารอบไหนบ้าง จะได้เตรียมเอกสารให้ทัน
2. เช็กคุณสมบัติ
- มีสัญชาติไทย
- เรียนหรือได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาในสถานศึกษาที่ร่วมกับกองทุน
- ขอกู้ยืมได้แค่สถานศึกษาเดียวในแต่ละภาคเรียน
- มีผลการเรียนดี หรือผ่านเกณฑ์ของสถานศึกษา
- มีความประพฤติดี ไม่ฝ่าฝืนระเบียบร้ายแรง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด การพนัน ดื่มสุราเป็นอาจิณ ฯลฯ
3. เตรียมเอกสารให้ครบ เอกสารสำคัญที่ต้องมี ได้แก่
- แบบคำขอกู้ยืมเงินจากระบบ e-Studentloan
- หนังสือให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูล
- สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้กู้ บิดามารดา/ผู้ปกครอง และคู่สมรส (ถ้ามี)
- เอกสารรับรองรายได้ครอบครัว
- หนังสือความคิดเห็นจากอาจารย์ที่ปรึกษา
- แผนผังที่อยู่อาศัยพร้อมรูปถ่าย
- ใบแสดงผลการศึกษา
4. ลงทะเบียนผ่านระบบ DLS
- ลงทะเบียนในระบบ e-Studentloan
- ยื่นคำขอและตรวจสอบคุณสมบัติ
- รอประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิกู้ยืม
- ทำสัญญาและบันทึกค่าใช้จ่าย
- ลงนามในเอกสารและส่งสัญญาให้ธนาคาร
การชำระหนี้ กยศ.
- ระยะเวลาชำระ: ภายใน 15 ปี นับจากวันที่เริ่มชำระหนี้
- ดอกเบี้ย: แค่ 1% ต่อปี จากยอดคงค้าง
- ชำระงวดแรก: ภายในวันที่ 5 กรกฎาคม หลังจบการศึกษา (หลังระยะปลอดหนี้)
- สามารถชำระก่อนกำหนดได้โดยไม่เสียค่าปรับ
2. กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)
กรอ. คืออีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่นิสิต นักศึกษา ตั้งแต่ระดับอนุปริญญาถึงปริญญาตรี
จุดเด่นของ กรอ. คือ ไม่จำกัดฐานะครอบครัว แต่ผู้กู้เงินเรียนต้องชำระเงินคืนเมื่อจบการศึกษาและมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด
คุณสมบัติผู้กู้ กรอ..
- มีสัญชาติไทย
- เป็นนิสิต นักศึกษา ที่สถาบันอุดมศึกษาตอบรับให้เข้าศึกษา
- ระดับการศึกษา: ปวส., ปวท., อนุปริญญา และปริญญาตรี
วงเงินกู้ยืม กรอ.
- ค่าเล่าเรียนสูงสุด 60,000 บาท/ปี
- ค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องกับการศึกษา 10,000 บาท/ปี
- รวมสูงสุด 70,000 บาท/ปี
การชำระคืนเงินกู้ กรอ.
- เริ่มชำระเมื่อมีรายได้ตั้งแต่ 16,000 บาท/เดือน หรือ 192,000 บาท/ปี
- อัตราการชำระคืนขึ้นอยู่กับรายได้:
รายได้ 16,000-30,000 บาท/เดือน: ชำระ 5% ของรายได้
รายได้ 30,001-70,000 บาท/เดือน: ชำระ 8% ของรายได้
รายได้ 70,001 บาท/เดือนขึ้นไป: ชำระ 12% ของรายได้
- เมื่ออายุครบ 60 ปี หากยังชำระไม่หมด หนี้ที่เหลือจะถูกระงับ
3. สินเชื่อเพื่อการศึกษา เรียนก่อนผ่อนทีหลัง
ถ้าหากเพื่อน ๆ ไม่เข้าเกณฑ์ กยศ. หรือ กรอ. อีกหนึ่งทางเลือกในการกู้เงินเรียนต่อคือ "สินเชื่อเพื่อการศึกษา" จากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ หรือธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ โดยสินเชื่อประเภทนี้มักมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลทั่วไป เพราะเป็นโครงการเพื่อสนับสนุนการศึกษา โดยผู้กู้เงินเรียนจะได้เรียนก่อนแล้วค่อยทยอยผ่อนชำระหลังจบการศึกษา
4. สินเชื่อเพื่อการศึกษาจากธนาคารพาณิชย์
ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งก็มีสินเชื่อเพื่อการศึกษาเช่นกัน โดยมักจะมีเงื่อนไขที่หลากหลายกว่าทางเลือกอื่น ๆ แต่ก็อาจมีดอกเบี้ยที่สูงกว่า ข้อดีคือ การอนุมัติมักจะรวดเร็วกว่า และมีความยืดหยุ่นในการใช้เงินมากกว่า โดยสามารถนำไปใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาได้ด้วยค่ะ
เพื่อน ๆ ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ และเงื่อนไขอื่น ๆ ก่อนตัดสินใจเลือกกู้เงินเพื่อการศึกษากับธนาคารใดธนาคารหนึ่ง เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด
5. กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาของมหาวิทยาลัย
หลายมหาวิทยาลัยก็มีกองทุนของตัวเองเพื่อช่วยเหลือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์เช่นกัน โดยอาจมีรูปแบบการให้กู้ยืมที่แตกต่างกันไป บางแห่งอาจเป็นทุนให้เปล่าที่ไม่ต้องคืน บางแห่งอาจเป็นเงินกู้ยืมที่มีดอกเบี้ยต่ำหรือไม่มีดอกเบี้ยเลย ซึ่งเงื่อนไขต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละมหาวิทยาลัย
โดยเพื่อน ๆ ที่สนใจกู้เงินเรียนสามารถสอบถามข้อมูลได้จากฝ่ายกิจการนักศึกษาหรือฝ่ายทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยโดยตรง
เรียนจบพร้อมเริ่มต้นตั้งหลักชีวิตอย่างมั่นคง ให้เงินเทอร์โบเป็นตัวช่วย
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ เลือกแหล่งกู้เงินเพื่อการศึกษาได้ง่ายขึ้นนะคะ ส่วนเมื่อจบการศึกษาดังหวังแล้ว และมองหาแหล่งเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องหรือเริ่มต้นสร้างธุรกิจ เงินเทอร์โบ เราพร้อมให้คำปรึกษาด้านการเงินแบบครบวงจร ด้วยบริการสินเชื่อที่หลากหลาย ทั้งสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อมอเตอร์ไซค์ และสินเชื่อจำนำโฉนดที่ดิน
✅ เงินพร้อมใช้ สมัครง่าย อนุมัติไว
✅ ดอกเบี้ยเป็นธรรม ผ่อนสบาย ไม่หนักเกินไป
✅ ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน สมัครได้ทุกอาชีพ
✅ มีสาขาทั่วประเทศ เข้าถึงง่าย ไม่ยุ่งยาก
สนใจสมัครสินเชื่อ สามารถกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ได้เลย หรือติดต่อที่เงินเทอร์โบได้ทุกสาขาใกล้บ้าน
การกดส่งข้อมูล ถือว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรียบร้อยแล้ว
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 15% - 24% ต่อปี
*เงื่อนไขและการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด