คู่มือนักขับ ! เคล็ดลับดูแลรถยนต์ ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน

7 เคล็ดลับดูแลรถยนต์ ยืดอายุการใช้งาน ลดค่าซ่อมแพง

รถยนต์ก็เหมือนร่างกายของเรา ถ้าดูแลดี ๆ ใช้งานถูกวิธี ก็จะอยู่กับเราไปได้นาน ไม่งอแงให้ต้องเสียเงินซ่อมบ่อย ๆ วันนี้เงินเทอร์โบมีเคล็ดลับดูแลรถยนต์มาฝากเพื่อน ๆ ให้รถคู่ใจวิ่งได้ลื่น ๆ ยาว ๆ แบบไม่ต้องเข้าอู่บ่อย ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า พร้อมแล้วไปลุยกันเลยค่ะ !

1. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะ ไม่ใช่รอให้เครื่องพัง

น้ำมันเครื่อง เป็นเสมือนเลือดของรถ ถ้ารถเสื่อมสภาพก็เป็นเหมือนร่างกายเราที่ขาดออกซิเจน รถจะเริ่มกินน้ำมันมากขึ้น เครื่องยนต์สึกหรอเร็ว และท้ายที่สุดอาจพังจนต้องยกเครื่องใหม่ ซึ่งค่าซ่อมไม่ใช่น้อยเลยค่ะ ดังนั้น ถ้าอยากให้รถยนต์คู่ใจใช้งานได้ดีไปนาน ๆ วิธีดูแลรถยนต์ที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือ การหมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามเกณฑ์มาตรฐานค่ะ

โดยปกติแล้วเพื่อน ๆ ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 5,000-10,000 กิโลเมตร หรือเช็กตามที่คู่มือรถระบุไว้ ถ้าเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้บางรุ่นก็อาจใช้ได้ถึง 15,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่ด้วยนะคะ หรือถ้าขับลุยฝุ่นบ่อย ๆ ใช้รถหนัก ก็ควรเปลี่ยนถี่ขึ้นค่ะ

2. เช็กและเปลี่ยนไส้กรองอากาศอยู่เสมอ

ถ้าน้ำมันเครื่องคือเลือด ไส้กรองอากาศก็คือปอดของรถยนต์ค่ะ ดังนั้น ถ้าไส้กรองอากาศอุดตัน อากาศไหลเข้าเครื่องยนต์ไม่ดี ทำให้เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ จะส่งผลให้รถกินน้ำมันมากขึ้น และอาจทำให้กำลังเครื่องตกอีกด้วยค่ะ

ถ้าไม่อยากเจอเหตุการณ์ขับอยู่ดี ๆ แล้วเครื่องดับกลางถนน การบํารุงรักษารถยนต์ที่ต้องทำคือ ตรวจเช็กไส้กรองอากาศทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร และเปลี่ยนใหม่เมื่อเริ่มมีฝุ่นอุดตันมากค่ะ

3. หมั่นตรวจระบบระบายความร้อน อย่ารอให้หม้อน้ำเดือด

ระบบระบายความร้อนเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ค่ะ เพราะเครื่องยนต์ที่ทำงานจะเกิดความร้อนสูง ถ้าระบายความร้อนไม่ดี อาจทำให้เครื่องยนต์พังเสียหายอย่างรุนแรงได้เลยค่ะ ดังนั้น วิธีดูแลรถยนต์ที่ดีคือเพื่อน ๆ ต้องหมั่นเช็กระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อพักอย่างสม่ำเสมอ โดยเช็กตอนเครื่องเย็นเท่านั้นนะคะ ! ระดับน้ำหล่อเย็นควรอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX เติมเฉพาะน้ำยาหล่อเย็นที่เหมาะสมกับรถเท่านั้น และที่สำคัญอย่าใช้น้ำเปล่าเด็ดขาดค่ะ เพราะน้ำยาหล่อเย็นมีสารป้องกันการกัดกร่อนและป้องกันการเดือดที่น้ำเปล่าไม่มี

นอกจากนี้ เพื่อน ๆ ควรหมั่นตรวจสอบรอยรั่วซึมของระบบ สังเกตพื้นใต้รถว่ามีน้ำรั่วหรือไม่ หมั่นสังเกตเข็มวัดอุณหภูมิบนหน้าปัดว่าขึ้นสูงผิดปกติหรือไม่ ถ้าเริ่มมีอาการผิดปกติ รีบหาสาเหตุและแก้ไขทันทีค่ะ อย่ารอให้หม้อน้ำเดือดจนควันโขมงเด็ดขาดนะคะ

4. เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามระยะ

ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง ช่วยกรองสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปในระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งถ้าปล่อยให้สิ่งสกปรกเข้าไป ไม่ทำการบํารุงรักษารถยนต์อย่างเหมาะสม ก็อาจทำให้หัวฉีดเสียหายหรืออุดตันได้ ดังนั้น เพื่อน ๆ ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงทุก 40,000-60,000 กิโลเมตร หรือตามที่คู่มือรถระบุ แต่ถ้ารถเริ่มมีอาการสะดุด เร่งไม่ขึ้น หรือกินน้ำมันมากผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มอุดตันแล้วค่ะ

5. หมั่นเช็กเกียร์และระบบส่งกำลัง

ระบบเกียร์ ถือป็นอีกจุดสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยสำหรับรถเกียร์ธรรมดา เพื่อน ๆ สามารถสังเกตว่าเกียร์ยังอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่ อาจเช็กจากความรู้สึกเวลาเข้าเกียร์ว่ายังนุ่มนวลไหม มีเสียงดังผิดปกติขณะเข้าเกียร์หรือเปล่า รวมถึงเช็กคลัตช์ว่ายังทำงานปกติดีอยู่ไหม ถ้าเหยียบคลัตช์แล้วรู้สึกว่าแข็งหรือนุ่มผิดปกติ หรือมีเสียงดังขณะเหยียบ แสดงว่าอาจมีปัญหาแล้วค่ะ

สำหรับรถเกียร์อัตโนมัติ ถ้าเปลี่ยนเกียร์แล้วมีอาการกระตุก เปลี่ยนเกียร์ช้ากว่าปกติ หรือรอบเครื่องขึ้นสูงผิดปกติก่อนเปลี่ยนเกียร์ ก็ไม่ควรมองข้าม และพารถไปเช็กเช่นกันค่ะ

น้ำมันเกียร์ควรเปลี่ยนตามระยะที่กำหนดในคู่มือรถ โดยทั่วไปรถเกียร์ธรรมดาควรเปลี่ยนทุก 40,000-60,000 กิโลเมตร ส่วนรถเกียร์อัตโนมัติอาจอยู่ที่ 60,000-100,000 กิโลเมตร แต่บางรุ่นอาจระบุว่าใช้น้ำมันเกียร์ตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งก็ควรเช็กตามคู่มือรถเป็นหลักค่ะ

6. ตรวจเช็กช่วงล่างและระบบเบรกสม่ำเสมอ

ช่วงล่างและเบรก เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยโดยตรง ถ้าเบรกมีปัญหาแล้วเพื่อน ๆ ไม่เช็ก ก็อาจเป็นเรื่องร้ายแรงถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุได้เลยนะคะ ดังนั้น หากได้ยินเสียงดังผิดปกติขณะขับรถ หรือรู้สึกว่าการตอบสนองของเบรกช้าลง เบรกจม ให้รีบตรวจเช็กทันที อย่ารอให้ผ้าเบรกหมดแล้วค่อยเปลี่ยน เพราะถ้าผ้าเบรกสึกจนโลหะเสียดสีกับจานเบรก อาจต้องเปลี่ยนจานเบรกใหม่ทั้งชุด ซึ่งแพงกว่าหลายเท่าเลยค่ะ

7. เติมน้ำมันให้ถูกประเภท และอย่าปล่อยให้เหลือน้อยเกินไป

การเติมน้ำมันก็เกี่ยวข้องกับวิธีดูแลรถยนต์ให้มีอายุการใช้งานยาวนานเช่นกัน เพราะรถแต่ละคันออกแบบมาให้ใช้เชื้อเพลิงเฉพาะประเภท ไม่ว่าจะเป็นเบนซิน แก๊สโซฮอล์ หรือดีเซล ควรเติมน้ำมันที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ เช่น ถ้ารถยนต์ไม่รองรับแก๊สโซฮอล์ E20 หรือ E85 ก็ห้ามเติมเด็ดขาด เพราะถ้าเติมไปก็อาจทำให้เครื่องยนต์น็อก หรือเสียหายได้ค่ะ

อีกเรื่องที่เพื่อน ๆ หลายคนมองข้ามคือ ไม่ควรปล่อยให้น้ำมันเหลือน้อยติดขีดแดงบ่อย ๆ เพราะตะกอนและสิ่งสกปรกที่ตกค้างในถังน้ำมันอาจถูกดูดเข้าไปในระบบเชื้อเพลิง ทำให้หัวฉีดอุดตัน หรือปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงพังเร็วขึ้น ทางที่ดีควรเติมน้ำมันก่อนถึงขีดแดงเสมอค่ะ

ทำประกันรถยนต์กับ เงินเทอร์โบ ช่วยให้เพื่อน ๆ ขับขี่บนท้องถนนอย่างอุ่นใจ

เพื่อน ๆ เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าการดูแลรถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนานไม่ใช่เรื่องยาก และนอกเหนือจากเคล็ดลับข้างต้นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่นักขับควรให้ความสำคัญเช่นกันเพื่อการขับขี่ที่อุ่นใจคือ การมีประกันรถยนต์ เพราะประกันรถยนต์เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยคุ้มครองเงินในกระเป๋าเพื่อน ๆ จากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดค่ะ โดยขอแนะนำประกันรถยนต์ผ่อนได้ จากเงินเทอร์โบ

✅ ผ่อน 0% ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

✅ เบี้ยเริ่มต้นหลักร้อยต่อเดือน

ซื้อปุ๊บ คุ้มครองปั๊บ สนใจประกันรถ กรอกข้อมูลด้านล่าง หรือติดต่อได้ที่เงินเทอร์โบทุกสาขาใกล้บ้านค่ะ

สนใจประกันรถ
ประเภทประกันรถ
ชื่อ-นามสกุล
เบอร์โทรศัพท์
ส่งข้อมูล

การกดส่งข้อมูล ถือว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรียบร้อยแล้ว

บริษัท เงินเทอร์โบ อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด จะทำหน้าที่ติดต่อท่านเพื่อแนะนำข้อมูลผลิตภัณฑ์

*ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนการตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง ให้บริการโดย บริษัท เงินเทอร์โบ อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด ซึ่งเป็นเพียงนายหน้าประกันวินาศภัยเท่านั้น
รับประกันภัยโดย บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)