รู้จัก "ดอกลอย" ของเงินกู้นอกระบบ จ่ายเท่าไรยอดก็ไม่ลด

ดอกลอยของเงินกู้นอกระบบคืออะไร ? ทำไมถึงต้องระวัง

ในเวลาที่ต้องการเงินด่วน แล้วหายืมไม่ได้ หรือในช่วงที่ธุรกิจกำลังประสบปัญหา แล้วไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร อาจทำให้เพื่อน ๆ ต้องหันไปหาเงินกู้นอกระบบ เพราะเข้าถึงง่ายและไม่ต้องใช้เอกสาร แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ ดอกเบี้ยแบบ "ดอกลอย" ที่แม้ว่าจะจ่ายหนี้ตรงเวลาทุกงวด แต่ยอดหนี้กลับไม่มีทีท่าว่าจะลดลงไปเลย ในบทความนี้เลยอยากพาเพื่อน ๆ ไปทำความเข้าใจเรื่องดอกลอยที่น่ากลัว และเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่ควรกู้เงินนอกระบบกันค่ะ

ดอกลอยคืออะไร ? ใครรู้บ้าง

ดอกลอย คือ รูปแบบของสินเชื่อที่คิดดอกเบี้ยแบบคงที่ต่อเดือน โดยคิดจากยอดเงินกู้ และไม่หักเงินต้นออกเลย ไม่ว่าจะจ่ายหนี้มานานแค่ไหน ก็ยังต้องใช้หนี้ก้อนเดิมอยู่ แต่หากว่าผิดนัดชำระหนี้ ค่าปรับจะถูกนำมารวมกับเงินต้น ทำให้เสียดอกเบี้ยต่อเดือนเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยส่วนใหญ่จะสามารถปลดหนี้ได้ก็ต่อเมื่อมีเงินก้อนมาจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้หมดในครั้งเดียวค่ะ

ตัวอย่างเช่น หากว่าเพื่อน ๆ กู้เงินนอกระบบมา 10,000 บาท คิดดอกลอยเดือนละ 20% ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเท่ากับ 2,000 บาททุกเดือน แม้ว่าจ่ายมา 5 เดือนแล้ว เงินต้นก็ยังไม่ลดลงแม้แต่บาทเดียว

อันตรายของดอกลอย

  • จ่ายแต่ดอกไม่ลดเงินต้น เนื่องจากหนี้ในระบบทั่วไปจะเป็นแบบลดต้นลดดอก ในแต่ละเดือนจะจ่ายทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น ทำให้มีกำหนดปิดบัญชีหนี้ที่ชัดเจน และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็ลดลงไปเรื่อย ๆ
  • หากจ่ายไม่ทันหรือผิดนัดชำระหนี้ อาจจะถูกปรับและนำดอกเบี้ยและค่าปรับไปรวมกับเงินต้น ทำให้ยอดเงินต้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เรียกว่าเป็นการคิดดอกเบี้ยทบต้น
  • เป็นหนี้วนลูป ไม่สิ้นสุดสักที เพราะไม่ได้จ่ายเงินต้นเลย ทำให้ไม่สามารถปิดหนี้ได้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไรก็ตาม

หากเจอกับเงินกู้ดอกลอยควรทำอย่างไรดี ?

ในกรณีที่เผลอไปกู้เงินนอกระบบที่คิดดอกลอย เพื่อน ๆ อย่าเพิ่งกังวลใจไปค่ะ มีทางแก้ไขแบบง่าย ๆ ด้วย 4 เทคนิค ดังต่อไปนี้

1. เจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้โดยตรง

แน่นอนว่าเมื่อเป็นหนี้ก็ต้องชำระหนี้ ทั้งในส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ย แต่ต้องหมายเหตุเอาไว้ตัวใหญ่ ๆ ว่าต้องเป็นดอกเบี้ยตามอัตราที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น หากเจอกับดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด ให้เพื่อน ๆ เดินหน้าเข้าเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อลดอัตราดอกเบี้ย หรือให้นำเงินที่ชำระต่อเดือนไปหักเงินต้น เพื่อให้ยอดรวมลดน้อยลงไป

ในกรณีที่เจ้าหนี้ไม่ยินยอมหรือว่าข่มขู่ อย่าเพิ่งท้อค่ะ ให้ติดต่อหน่วยงานอย่างศูนย์ดำรงธรรม โทรศัพท์ 1567 มาเป็นตัวกลางช่วยในการเจรจา

2. ทำเอกสารการชำระหนี้ให้ชัดเจน

เรื่องเงินทองเพื่อน ๆ จะต้องละเอียดและรอบคอบ โดยเฉพาะการขอกู้เงิน โดยจะต้องมีสัญญาเงินกู้ ที่ระบุยอดเงินต้น อัตราดอกเบี้ย และรายละเอียดการชำระหนี้ต่าง ๆ ให้เรียบร้อย และทุกครั้งที่ชำระเงินกู้ จะต้องมีใบเสร็จที่ระบุจำนวนยอดเงินที่จ่าย ยอดเงินต้นคงเหลือ และดอกเบี้ยที่จ่าย เพื่อเป็นหลักฐานในการชำระหนี้ที่สมบูรณ์ เป็นการป้องกันการโกงหรือถูกบังคับให้ชำระหนี้เกินกว่าที่กำหนด

3. ตั้งเป้าจ่ายต้นให้ได้

เวลาที่เพื่อน ๆ เป็นหนี้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การปิดยอดสินเชื่อให้เร็วที่สุด ซึ่งหากว่าเป็นเงินกู้แบบลดต้นลดดอก การชำระหนี้มากกว่าขั้นต่ำ ก็จะช่วยให้ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายลดลงไปเรื่อย ๆ แต่ในกรณีของเงินกู้ดอกลอย แนะนำให้เพื่อน ๆ นำเงินก้อนใหญ่มาปิดทีเดียวจะดีกว่า โดยสามารถทำได้ทั้งขอสินเชื่อในระบบมาปิดหนี้นอกระบบ การขายของที่ไม่ได้ใช้ หรือการหารายได้เสริมมาเก็บเล็กผสมน้อยจนได้เป็นเงินก้อนใหญ่ในที่สุด

4. มองหาแหล่งเงินกู้ถูกกฎหมายแทน

หากให้เปรียบเทียบ แม้จะเป็นหนี้จำนวนเงินเดียวกัน แต่การกู้เงินแบบถูกกฎหมายก็ยังปลอดภัยและจ่ายดอกเบี้ยน้อยกว่าเงินกู้ดอกลอย ดังนั้น การขอสินเชื่อรถแลกเงิน สินเชื่อที่ดิน หรือสินเชื่ออื่น ๆ มาปิดหนี้นอกระบบจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการจ่ายแต่ดอกเบี้ยไปทุกเดือน โดยที่เงินต้นไม่ลดลงเลยค่ะ

เปรียบเทียบดอกเบี้ย “เงินกู้นอกระบบ” กับ “สินเชื่อในระบบ"

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังเห็นภาพไม่ชัด เงินเทอร์โบขอยกตัวอย่างการที่ต้องจ่ายให้แก่เงินกู้นอกระบบและสินเชื่อในระบบมาให้เห็นภาพกันค่ะ

เงินกู้นอกระบบ

  • ยอดกู้ 10,000 บาท ดอกเบี้ย 20% ต่อเดือน
  • ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อเดือนเท่ากับ 2,000 บาท
  • จ่ายแต่ดอกเบี้ย 12 เดือน = 24,000 บาท (แต่หนี้ยังคงอยู่ที่ 10,000 บาท)
  • ยอดเงินต้นคงเหลือ = 10,000 บาท

สินเชื่อในระบบ เช่น รถแลกเงิน

  • ยอดกู้ 10,000 บาท เลือกระยะเวลาผ่อนชำระ 12 งวด คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ในอัตรา 15% ต่อปี เทียบเท่ากับ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.68% ต่อเดือนโดยประมาณ
  • ค่างวด = ( เงินต้น + (เงินต้น x อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่อเดือน x จำนวนงวด)) / จำนวนงวด
  • = ( 10,000 + (10,000 x 0.68% x 12)) / 12
  • = 902 บาท ต่อเดือน
  • เมื่อครบกำหนดผ่อนเงินต้นหมดตามเงื่อนไข ยอดเงินต้นคงเหลือ = 0 บาท

*หมายเหตุ อัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขการชำระเงิน และระยะเวลาผ่อน ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละผู้ให้บริการสินเชื่อ และคุณสมบัติของผู้กู้ โปรดตรวจสอบรายละเอียดกับผู้ให้บริการก่อนตัดสินใจ

สรุปง่าย ๆ ก็คือ หากกู้เงินในระบบที่ดอกเบี้ย 15% ต่อปี โดยไม่ผิดนัดชำระหนี้ จะจ่ายดอกเบี้ยประมาณ 824 บาทต่อปี แถมยังปิดหนี้ได้ภายใน 12 เดือนอีกด้วย แต่หากว่าเป็นเงินกู้ดอกลอย นอกจากจะต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงแล้ว เงินต้นก็ยังไม่ลดลงเลยค่ะ

ต้องการเงินด่วน ปรึกษาเงินเทอร์โบ ไม่ต้องเจอดอกลอย

หากเพื่อน ๆ ต้องการกู้เงินด่วน ไม่อยากติดอยู่กับดอกลอย สามารถปรึกษาเงินเทอร์โบได้ เรามีสินเชื่อรถแลกเงิน และสินเชื่อมอเตอร์ไซค์พร้อมให้บริการค่ะ

✅ ไม่ต้องใช้คนค้ำ

✅ ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก 15%-24% ต่อปี

✅ สมัครง่าย มีสาขาใกล้บ้าน

สนใจสมัครสินเชื่อสามารถกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ได้เลย หรือติดต่อที่เงินเทอร์โบได้ทุกสาขาใกล้บ้าน

สนใจสมัครสินเชื่อ
ประเภทสินเชื่อ
ชื่อ-นามสกุล
เบอร์โทรศัพท์
ส่งข้อมูล

การกดส่งข้อมูล ถือว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรียบร้อยแล้ว

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 15% - 24% ต่อปี
*เงื่อนไขและการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด