วิธีต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ยุ่งยากไหม
มอเตอร์ไซค์

ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ประหยัดเวลา ไม่ยุ่งยาก

การต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด แค่เพียงเพื่อนๆ เตรียมตัวล่วงหน้าก็สามารถติดต่อและดำเนินการได้อย่างราบรื่น ช่วยให้เราได้ทำตามที่กฎหมายกำหนดโดยไม่มีปัญหาตามมาภายหลังค่ะ แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่แน่ใจว่าในขั้นตอนการต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์มีอะไรบ้าง ต้องสอบขับรถใหม่หรือเปล่า และต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ในบทความนี้มีคำตอบค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว ไปเตรียมตัวกันเลย

ความสำคัญของใบขับขี่มอเตอร์ไซค์

เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่าใบขับขี่มีความสำคัญมากกว่าเป็นแค่บัตรใบเล็กๆ ที่พกเอาไว้ในกระเป๋าสตางค์ เพราะเป็นบัตรที่แสดงว่าเราได้ผ่านการสอบตามกฎหมาย ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมถึงการอบรมเกี่ยวกับการขับขี่ ซึ่งจะช่วยสร้างจิตสำนึกให้ผู้ขับขี่ทุกคนปฏิบัติภายใต้ข้อกำหนดและกฎหมายเดียวกัน จะมีใครอ้างว่าไม่รู้กฎจราจรไม่ได้ค่ะ

ดังนั้น การสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์และการต่อใบขับขี่ก็เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเป็นการบอกว่า เพื่อนๆ ยังมีความสามารถในการขับขี่อยู่นั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ หากว่ารถเกิดอุบัติเหตุแล้วใบขับขี่หมดอายุ แม้ว่าจะมีประกันภัยรถยนต์ ก็อาจจะเคลมประกันไม่ได้นะคะ ทำให้ต้องจ่ายค่าเสียหายเอง จนหลายคนอาจต้องขอสินเชื่อรถแลกเงิน เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าเสียหายแทน เห็นไหมคะว่าใบขับขี่มีความสำคัญมากกว่าที่เราคิด

เอกสารที่ต้องใช้ในการต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์

เอาล่ะค่ะ เมื่อเพื่อนๆ รู้ถึงความสำคัญของใบขับขี่กันแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่า ก่อนที่จะเดินทางไปต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ เราจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง จะได้ไม่เสียเวลาเทียวไปเทียวมาหลายรอบนั่นเองค่ะ

  • บัตรประชาชนตัวจริง เพื่อยืนยันตัวตน
  • ใบอนุญาตขับขี่ฉบับเดิม หากมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุให้เตรียมไปด้วย หรือหากเกินอายุแล้วจะต้องทำการสอบข้อเขียน
  • ใบรับรองแพทย์ ต้องขอจากโรงพยาบาลหรือคลินิก ภายใน 1 เดือน ก่อนทำการยื่นคำขอ
  • หลักฐานการจองคิวออนไลน์ หากมีการจองคิวออนไลน์ไว้
  • หลักฐานการอบรมออนไลน์ สำหรับการอบรมผ่านระบบ E-Learning

ขั้นตอนการต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์

เมื่อเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาที่เพื่อนๆ จะต้องดำเนินการต่อใบขับขี่ ซึ่งมีขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ

1. การจองคิวต่อใบขับขี่

เพื่อนๆ สามารถจองคิวได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือที่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก โดยสามารถเลือกสำนักงานขนส่งทางบกที่อยู่ใกล้และวันเวลาที่สะดวกได้เลย ไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ของสำนักงานดังกล่าว

2. การอบรมภาคทฤษฎี

ก่อนเข้าไปต่อใบขับขี่ เพื่อนๆ จะต้องอบรมทฤษฎี โดยสามารถทำได้ 2 วิธีคือ

  • อบรมที่สำนักงานขนส่ง นาน 1 ชั่วโมง สำหรับการต่ออายุใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี หรือจาก 5 ปี เป็น 5 ปี
  • อบรมออนไลน์ สะดวกสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกไปที่สำนักงาน โดยผลการอบรมออนไลน์จะมีอายุ 180 วัน

3. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

อีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญก็คือ การทดสอบสมรรถภาพร่างกายของเพื่อนๆ ว่ายังสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ เพราะผู้ที่ขับขี่รถจะต้องพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยมีการทดสอบดังต่อไปนี้

  • การทดสอบตาบอดสี เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถมองสัญญาณจราจรได้อย่างถูกต้อง
  • การทดสอบทางกว้าง ทดสอบว่าสามารถมองเห็นสิ่งรอบข้างได้หรือไม่ แม้ว่าจะไม่ได้หันหน้าไปมอง
  • การทดสอบสายตาทางลึก เพื่อวัดความสามารถในการกะระยะเพื่อแซงบนท้องถนน
  • การทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า ดูว่าหากเกิดอุบัติเหตุเพื่อนๆ สามารถเหยียบเบรกได้ไวแค่ไหนค่ะ ซึ่งสำคัญมากๆ เวลาเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันบนท้องถนน

ยื่นคำขอและเอกสาร

เมื่อเพื่อนๆ ทดสอบสมรรถภาพร่างกายผ่านแล้ว ให้นำเอกสารทั้งหมดไปยื่น เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบและยืนยันข้อมูล

ชำระเงิน

ค่าธรรมเนียมในการต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่ที่ 255 บาท

ถ่ายรูปและรับใบขับขี่

จากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้เพื่อนๆ ถ่ายรูปเพื่อใช้ในใบขับขี่ใหม่ หลังจากนั้นก็รอรับใบขับขี่ใบใหม่ได้เลยค่ะ

ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อแบบไหน?

เพื่อนๆ รู้หรือไม่คะว่า ระยะเวลาที่ใบขับขี่หมดอายุส่งผลต่อขั้นตอนการต่อใบขับขี่ใหม่ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 3 กรณีย่อยๆ ได้ดังนี้ค่ะ

กรณีใบขับขี่หมดอายุ ไม่เกิน 1 ปี

กรณีนี้ เพื่อนๆ สามารถต่อใบขับขี่ได้ตามปกติ ไม่ต้องสอบข้อเขียนใหม่ แค่เตรียมเอกสารที่จำเป็น และอบรมตามที่กำหนด

กรณีหมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี

หากเพื่อนๆ ลืมต่อใบขับขี่มอไซค์ เกินไป 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี เพื่อนๆ จะต้องเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย, อบรมภาคทฤษฎี 2 ชั่วโมง (สามารถอบรมออนไลน์ล่วงหน้าได้) และต้องสอบข้อเขียนใหม่ให้ผ่านเกณฑ์ 90% (45 จาก 50 ข้อ) อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ จะได้รับการยกเว้นการสอบขับรถภาคปฏิบัติค่ะ

กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปีขึ้นไป

ในกรณีที่เพื่อนๆ ลืมสนิทเลยว่าใบขับขี่หมดอายุ และเวลาล่วงเลยมาเกิน 3 ปี มาแล้ว เพื่อนๆ จะต้องสอบใบขับขี่มอไซค์ใหม่ทุกขั้นตอนเหมือนตอนขอรับใบขับขี่ครั้งแรก ทั้งการอบรมตามหลักสูตร, ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย, สอบข้อเขียนภาคทฤษฎี และสอบปฏิบัติขับรถในสนามสอบที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด รวมถึงต้องมีใบรับรองแพทย์ที่อายุไม่เกิน 1 เดือนด้วยค่ะ

ข้อควรระวังในการต่อใบขับขี่

สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังจะต่อใบขับขี่ ให้ระวังเรื่องดังต่อไปนี้ด้วยนะคะ

  • ไม่ควรปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุ หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี ต้องสอบข้อเขียนใหม่ และหากเกิน 3 ปี จะต้องขึ้นทะเบียนใหม่ ซึ่งจะทำให้การต่อใบขับขี่ยุ่งยากมากขึ้น
  • หากขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาต จะถูกปรับตามกฎหมาย โดยแบ่งเป็น 3 กรณีค่ะ

- ไม่เคยสอบใบขับขี่ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับค่ะ

- ใบขับขี่หมดอายุ หรือถูกสั่งพักใช้ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท

- มีใบอนุญาตขับรถ แต่ไม่พก ปรับไม่เกิน 1,000 บาทค่ะ

เจอเรื่องไม่คาดคิด ต้องใช้เงินด่วน คิดถึงเงินเทอร์โบ

เพราะในชีวิตมักมีเรื่องไม่คาดคิดและค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันอยู่เสมอค่ะ ดังนั้น เพื่อนๆ อย่าประมาทและคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ เพราะหากว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเองทั้งหมด ต้องรับภาระทั้งคดีอาญาและแพ่งค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากว่าเพื่อนๆ ที่กำลังหาเงินก้อนเพื่อใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล หรือค่าเสียหายต่างๆ สามารถขอสินเชื่อรถแลกเงิน ด้วยมอเตอร์ไซค์ จากเงินเทอร์โบได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน พร้อมรับเงินทันทีค่ะ

✅ ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน

✅ ดอกเบี้ยต่ำ

✅ อนุมัติไว ได้เงินเร็ว

✅ มีตัวเลือกที่หลากหลาย รองรับทุกความต้องการ

สนใจสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์
การกดส่งข้อมูล แสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรียบร้อยแล้ว

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 15% - 24% ต่อปี
*เงื่อนไขและการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด