คุ้มครองสูง เคลมง่าย มั่นใจ
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
บริษัทประกันภัยมั่นคง น่าเชื่อถือ มั่นใจว่าเคลมได้
คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก สูงสุด 10 ล้านบาทต่อครั้ง
เบี้ยเริ่มต้น 1,399 บาท หรือเพียงวันละ 4 บาท
จ่ายเบี้ยคุ้มครองทันที

คัดมาให้แล้ว คุ้มครองครบ คุ้มราคา

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+

ขับขี่ปลอดภัย รถใช้งานประจำ มั่นใจทุกสถานการณ์

คุ้มครองคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ เฉี่ยวชน สูญหาย ไฟไหม้

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3

อุ่นใจทุกการขับขี่ด้วยความคุ้มครองคู่กรณี ในราคาประหยัด

สำหรับรถเก่า ผู้ขับชำนาญระมัดระวัง หรือขับไม่บ่อย มีความเสี่ยงน้อย คุ้มครองเท่าที่จำเป็น

ประกันรถมอเตอร์ไซค์แต่ละชั้น
คุ้มครองต่างกันยังไง

ความคุ้มครอง

/แผนประกัน
2+
3
รถที่เอาประกัน
ชนแบบมีคู่กรณี
-
ชนแบบไม่มีคู่กรณี--
รถหาย
-
ไฟไหม้
-
น้ำท่วม--
คู่กรณี
บุคคล
ทรัพย์สิน
คนในรถ
ที่เอาประกัน
อุบัติเหตุ
ค่ารักษาพยาบาล--
ประกันตัวผู้ขับขี่

วิธีการเคลมประกัน

1
ติดต่อศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุ
                    บริษัทประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ติดต่อศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุ บริษัทประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมง

พร้อมแจ้งทะเบียนรถ ชื่อสกุล เบอร์โทร วัน-เวลา และลักษณะการเกิดเหตุ
2
รอรับใบเคลม/บันทึกความเสียหายจากบริษัทประกันภัย

รอรับใบเคลม/บันทึกความเสียหายจากบริษัทประกันภัย

หากมีคู่กรณี บริษัทประกันภัยส่งเจ้าหน้าที่ให้บริการลูกค้าเพื่อให้ความช่วยเหลือ หากไม่มีคู่กรณี บริษัทประกันภัยจะบันทึกการแจ้งเหตุให้ลูกค้าและออกใบเคลมให้
3
ติดต่ออู่/ศูนย์บริการได้เลย

ติดต่ออู่/ศูนย์บริการได้เลย

อย่าลืมเตรียมเอกสาร ใบเคลมหรือบันทึก ความเสียหายจากบริษัทประกัน สำเนาทะเบียนรถ สำเนาใบขับขี่ของผู้ขับขี่ ณ วันที่เกิดเหตุ
4
มีข้อสงสัย?

มีข้อสงสัย?

หากพบปัญหา โทร. 02-857-8000 เราพร้อมประสานงานให้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ
ประกันรถมอเตอร์ไซค์

ดูคำถามทั้งหมด
การขับขี่มอเตอร์ไซค์ในไทยจำเป็นต้องมีประกันภาคบังคับ (พ.ร.บ. มอเตอร์ไซค์) อยู่แล้ว และหากมีประกันภาคสมัครใจช่วยลดความเสี่ยงในอนาคต

ข้อดีของประกันภัยมอเตอร์ไซค์
- ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายทั้งค่าซ่อมรถตัวเองและคู่กรณี
- ลดความขัดแย้ง คู่กรณี เพราะบริษัทประกันช่วยเจรจาให้
- เพิ่มความมั่นใจและความอุ่นใจในการเดินทาง
ไม่คุ้มครองกรณีอุบัติเหตุจากการแข่งรถ การใช้รถในลักษณะที่ผิดกฎหมาย เช่น เมาแล้วขับ ขนส่งสิ่งของผิดกฎหมาย
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และเหตุผลที่ไม่มีใบขับขี่ ดังนี้
1. กรณี คนขับเป็นฝ่ายถูก หากรถมีประกันชั้น 1, 2+, 3+ บริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อม และเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีที่ผิดให้
2. กรณี คนขับเป็นฝ่ายผิด ความคุ้มขึ้นครองขึ้นกับเหตุผลที่ไม่มีใบขับขี่
- ใบขับขี่หมดอายุ : คุ้มครอง ทั้งรถของผู้เอาประกันและคู่กรณี
- ไม่มีใบขับขี่ : ไม่คุ้มครองรถผู้เอาประกัน แต่จะชดเชยความเสียหายต่อบุคคลภายนอกตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์
- ถูกยึดใบขับขี่ : คุ้มครองทั้งรถของผู้เอาประกันและคู่กรณี หากมีเอกสารคัดลอกสำนวนมายืนยันกับบริษัทประกัน
1. ตั้งสติ และเก็บข้อมูล จดรายละเอียดรถคู่กรณี เช่น ทะเบียนรถ ยี่ห้อ รุ่น สี หรือใช้ภาพจากกล้องหน้ารถเป็นหลักฐานช่วยติดตาม
2. โทรแจ้ง บริษัทประกัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าถ่ายรูปความเสียหาย และออกใบเคลม
*กรณี จำทะเบียนรถของคู่กรณีไม่ได้ ทางบริษัทประกันจะตามหาและติดตามรถคู่กรณีให้
3. แจ้งตำรวจ ลงบันทึกประจำวัน โดยระบุรายละเอียดเหตุการณ์ เช่น เวลา สถานที่ และลักษณะการชน
หมายเหตุ :
- กรณี มีหลักฐาน และระบุตัวตนของคู่กรณีที่ชนแล้วหนีได้ ก็จะได้รับความคุ้มครอง
- กรณี ไม่มีหลักฐาน จะมีเพียงประกันชั้น 1 เท่านั้น ที่จะได้รับความคุ้มครอง
1. ตั้งสติ จดจำรายละเอียดเหตุการณ์ และตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น
- กรณี มีฝ่ายยอมรับผิด ทำหลักฐานยอมรับผิดก่อนเคลื่อนรถเข้าริมถนน
- กรณี ไม่มีฝ่ายยอมรับผิด ห้ามเคลื่อนรถ ให้รอเจ้าหน้าที่ประกันหรือตำรวจมาทำแผนที่เกิดเหตุ
2. โทรแจ้งบริษัทประกัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าถ่ายรูปความเสียหาย และออกใบเคลมรถให้
หมายเหตุ :
- ห้ามรับข้อเสนอใดๆ จากคู่กรณี หากไม่ได้หารือกับเจ้าหน้าที่บริษัทก่อน
- ห้ามเซ็นเอกสารใดๆให้คู่กรณี ให้รอจนกว่าเจ้าหน้าที่บริษัทจะไปถึง และให้คำแนะนำ
3. นำรถเข้าซ่อม แนะนำเลือกศูนย์บริการหรืออู่ในเครือบริษัทประกันเพื่อความสะดวกในการเคลม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูบทความทั้งหมด
รวมจุดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วประเทศ
สาระน่ารู้
โฉนดที่ดินบอกอะไรเราได้บ้าง มีวิธีดูอย่างไร?
โฉนดที่ดิน
เช็กรถ 10 จุด เตรียมพร้อมก่อนเดินทางไกล
รถยนต์
ตราสัญลักษณ์ 5 มาตรฐานที่ลูกค้าได้รับ
สาระน่ารู้