ตั้งสติก่อนหาเงินฉุกเฉิน ไม่เช่นนั้นอาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนที่เคยหรือกำลังเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเรื่องเงิน ไม่ว่าจะค่าเทอมลูก ค่าซ่อมรถ ค่าน้ำค่าไฟ ประดังประเดเข้ามาพร้อมกันจนหัวหมุนไปหมด มองไปทางไหนก็มืดแปดด้าน ในวินาทีที่เรากำลังร้อนใจนี่แหละค่ะเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด เพราะมิจฉาชีพจ้องจะเล่นงานเราอยู่ คนพวกนี้รู้จุดอ่อนของคนร้อนเงินดีค่ะ ก็เลยสรรหาวิธีการสารพัดรูปแบบมาหลอกล่อให้เราตายใจ บทความนี้จึงจะมาบอก“9 กลอุบายที่มิจฉาชีพใช้หลอกคนที่ต้องการเงินฉุกเฉิน” เพื่อที่เพื่อนๆ จะได้รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมมิจฉาชีพ ไม่หลงกลตกเป็นเหยื่อให้ต้องช้ำใจค่ะ

ทำไมคนที่กำลังลำบากถึงตกเป็นเหยื่อได้ง่าย?

ก่อนจะไปดูกลโกงมิจฉาชีพ อยากให้เพื่อนๆ เข้าใจตรงนี้ก่อนค่ะ ว่าทำไมหลายคนเวลาเดือดร้อนเรื่องเงินถึงพลาดท่ากันได้ง่ายๆ

อธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุดคือ เป็นเรื่องของจิตวิทยาค่ะ เวลาเราติดขัดเรื่องเงิน สมองเราจะเกิดภาวะเครียดและโฟกัสอยู่เรื่องเดียวคือ “ต้องหาเงินด่วนโอนเข้าบัญชีมาให้ได้เดี๋ยวนี้!” ความกลัวและความกังวลจะไปบดบังเหตุผลค่ะ ทำให้เราลืมคิดเรื่องความปลอดภัย ลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือ สมองเราจะมองหาแต่คำว่า “ง่าย” “เร็ว” และ “ได้ชัวร์”

พอมาเจอกลอุบายมิจฉาชีพที่หลอกว่า เดี๋ยวจะมีเงินด่วนโอนเข้าบัญชีง่ายๆ เพียงแค่ต้องทำตามขั้นตอนบางอย่าง สิ่งนี้เลยเหมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่ทำให้เรากระโดดเข้าใส่ทันที ทั้งๆ ที่ถ้าเป็นเวลาปกติเราคงเอะใจแล้วว่า “จะง่ายขนาดนั้นได้ยังไง?” นี่แหละค่ะคือจุดที่อันตรายที่สุด

9 กลอุบายยอดฮิตที่มิจฉาชีพใช้หลอกล่อคนที่กำลังต้องการเงินฉุกเฉิน

1. หลอกให้โอน “ค่าธรรมเนียมล่วงหน้า” แล้วเชิดเงินหนี

อันนี้คือท่าไม้ตายยอดฮิตที่คนไทยโดนหลอกกันเยอะมากค่ะ โดยมิจฉาชีพจะทำทีเป็นอนุมัติวงเงินฉุกเฉินให้เรา แล้วอาจจะส่งรูปหน้าแอปฯ ปลอมๆ มาให้ดูว่ามีเงินเข้าแล้วนะ แต่... จะถอนออกมาไม่ได้ พร้อมอธิบายข้ออ้างสารพัดเหตุผลค่ะ เช่น “ต้องโอนค่าค้ำประกันมาก่อน 10%” “ต้องโอนค่าปลดล็อกรหัส” หรือ “ค่าเอกสาร” พอเราโอนไปปุ๊บ มิจฉาชีพก็จะบล็อกเราทันที แล้วหายไปกับสายลม

ดังนั้น จำไว้นะคะ สินเชื่อถูกกฎหมาย เขาจะหักค่าธรรมเนียม (ถ้ามี) จากยอดเงินกู้เลยค่ะ ไม่มีการให้ลูกค้าโอนเงินสดเข้าไปก่อนเด็ดขาด ถ้าเจอใครบอกให้โอนก่อนคือโกง 100% ค่ะ!

2. ปลอมตัวเป็นพนักงานธนาคารหรือบริษัทสินเชื่อ

อีกหนึ่งอุบายที่มิจฉาชีพชอบใช้คือ การไปก๊อบปี้รูปโลโก้ธนาคารดังๆ หรือบริษัทสินเชื่อที่น่าเชื่อถือเอามาทำเป็นรูปโปรไฟล์ในไลน์ หรือสร้างเพจปลอมที่หน้าตาเหมือนของจริงเป๊ะ แล้วก็จะทักแชตมาหาเพื่อนๆ ทำทีเสนอสินเชื่อพิเศษ ให้วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ ถ้าเราไม่เช็กให้ดีแล้วหลงเชื่อก็เสร็จโจรค่ะ

ดังนั้น ถ้าอยากปลอดภัยจากกลอุบายนี้ วิธีง่ายๆ คืออย่าคุยกับใครก็ตามที่ทักมาเรื่องเงินค่ะ ให้ติดต่อผ่านช่องทาง Official ของบริษัทเท่านั้น

3. ส่งลิงก์แปลกๆ ให้คลิก แล้วหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว

เคยไหมคะ… อยู่ดีๆ ก็มี SMS เข้ามาบอกว่า “คุณได้รับสิทธิ์ยืมเงิน 1,000 ด่วนโอนเข้าบัญชีทันที คลิกเลย” พอเราเผลอกดเข้าไป ระบบก็จะพาไปหน้าเว็บปลอมให้กรอกข้อมูล หรือแย่กว่านั้นคือเป็นลิงก์ฝังไวรัส (Malware) ที่แอบขโมยข้อมูลในมือถือเรา หรือดูดเงินในบัญชีเราเกลี้ยงโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคืออย่ากดลิงก์ใน SMS หรือไลน์จากคนไม่รู้จักเด็ดขาดค่ะ ลบได้ลบเลย

4. นายหน้าเถื่อนหลอกว่าจะช่วยหาแหล่งกู้ให้

สำหรับวิธีนี้จะเริ่มต้นจากมีคนที่อ้างตัวว่าเป็น “นายหน้า” บอกว่าจะช่วยดันเคสให้ผ่าน ช่วยยื่นกู้ให้ แต่ขอให้เราส่งเอกสารสำคัญไปให้ก่อน เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน พอได้เอกสารไป สิ่งที่มิจฉาชีพจะทำคือไม่ได้ช่วยเรากู้หรอกค่ะ แต่จะเอาเอกสารเราไป “ปลอมลายเซ็น” แล้วไปยื่นกู้กับสถาบันการเงินอื่นๆ ในชื่อของเรา พอได้เงินมา ก็เชิดเงินไปเลย ทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ให้เราผ่อน

5. ดอกเบี้ยโหดเกินกฎหมาย แต่แต่งตัวเลขให้ดูเหมือนน้อย

พวกเงินกู้นอกระบบมักจะใช้ตัวเลขมาหลอกตาเราค่ะ เช่น บอกว่า “เงินฉุกเฉินโอนเข้าบัญชีทันที ดอกเบี้ยแค่ 1%” แต่ไม่ได้บอกว่า 1% ต่อวัน หรือ ต่อ 5 วัน นะคะ ลองคิดดูนะคะ 1% ต่อวัน เดือนนึงก็ 30% เข้าไปแล้ว! พอกู้ไปแล้วกลายเป็นหนี้ท่วม จ่ายแต่ดอก ต้นไม่ลดซะที เพราะโดนกลลวงตัวเลขนี่แหละค่ะ

6. เร่งรัดให้รีบตัดสินใจ ใช้ความกลัวเป็นเครื่องมือ

“สิทธิ์เงินฉุกเฉินนี้มีจำกัดแค่ 10 ท่านแรก!” “ต้องโอนภายใน 10 นาทีนี้ ไม่งั้นตัดสิทธิ์!” มิจฉาชีพจะใช้ข้อความประมาณนี้มาบีบคั้นให้เรา “ไม่มีเวลาคิด” ค่ะ เร่งให้เรารีบโอนเงิน หรือรีบส่งข้อมูล เพราะมิจฉาชีพกลัวว่าถ้าเรามีเวลาตั้งสติ เราจะรู้ทันกลโกง ดังนั้น ถ้าเจอใครเร่งๆ แบบนี้ ให้ถอยออกมาตั้งหลักก่อนเลยค่ะ

7. ให้โอนเข้าบัญชีบุคคลธรรมดา แทนนิติบุคคล

เวลาเราจะจ่ายเงินค่าอะไรก็ตามให้แก่บริษัทสินเชื่อ ชื่อบัญชีผู้รับโอนต้องเป็นชื่อบริษัทเท่านั้นถ้าเขาบอกให้โอนเข้าบัญชีบุคคลธรรมดา ให้ฟันธงไปเลยค่ะว่าเป็นบัญชีม้า หรือบัญชีมิจฉาชีพแน่นอน

8. ชวนเข้ากลุ่มลับ “คนได้จริง รีวิวเพียบ” แต่จัดฉากทั้งหมด

กลโกงมิจฉาชีพสำหรับใช้หลอกคนที่ต้องการเงินฉุกเฉินยุคนี้ไปไกลถึงขั้นมีการสร้างกลุ่มไลน์ หรือกลุ่มเฟซบุ๊ก ที่ในกลุ่มมีสมาชิกเป็นร้อยคนเลยค่ะ คอยโพสต์สลิปโอนเงิน โพสต์ขอบคุณว่า “ได้เงินจริงค่ะ” “เงินด่วนโอนเข้าบัญชีอนุมัติไวมาก” พอเราหลงเข้าไปเห็นคนรีวิวเยอะๆ ก็ตายใจ นึกว่าของจริง ที่ไหนได้... หน้าม้าทั้งแก๊งค่ะ! พวกนี้ทำกันเป็นขบวนการ น่ากลัวมากๆ ดังนั้น อย่าเพิ่งเชื่อรีวิวในพื้นที่ปิดแบบนี้ง่ายๆ นะคะ

9. กลอุบาย “ขอรหัส OTP หรือรหัสผ่านแอปธนาคาร”

มิจฉาชีพจะอ้างว่า “ขอรหัส OTP เพื่อยืนยันการรับเงิน” หรือ “ขอรหัส PIN เข้าแอปธนาคารเพื่อเดินบัญชี” แต่ขอย้ำกับเพื่อนๆ ไว้ตรงนี้เลยค่ะว่า รหัสพวกนี้คือชีวิตของเรา ห้ามบอกใครเด็ดขาด! แม้แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารตัวจริงเขายังไม่ถามเลยค่ะ ถ้าใครขอรหัสพวกนี้ มั่นใจได้เลยว่าเป็นมิจฉาชีพที่กำลังจะดูดเงินเราออกไปจนหมดบัญชีค่ะ

หาเงินด่วนฉุกเฉินอย่างปลอดภัย อุ่นใจแน่นอน ปรึกษาเงินเทอร์โบ

เพื่อนๆ อ่านมาถึงตรงนี้ คงเห็นฤทธิ์เดชของพวกมิจฉาชีพแล้วใช่ไหมคะว่าน่ากลัวขนาดไหน คำว่า “เงินฉุกเฉิน โอนเข้าบัญชีทันที” ในโลกออนไลน์ ถ้าไม่เช็กให้ดี อาจทำให้ความเดือดร้อนเรื่องเงินที่มีอยู่แล้วทวีคูณขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าเพื่อนๆ จะหมดหวังในการกู้เงินด่วน นะคะ โดยเฉพาะเพื่อนๆ ที่มี “รถคู่ใจ” ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง รถกระบะ หรือมอเตอร์ไซค์ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์จาก เงินเทอร์โบ คือทางเลือกที่พร้อมตอบโจทย์ค่ะ เพราะหากมีเล่มทะเบียนรถ ก็สามารถใช้เป็นหลักประกันได้โดยไม่ต้องขายรถ ทั้งยังมีรถขับไปทำงาน ใช้ชีวิตต่อได้ตามปกติ ที่สำคัญคือมีเอกสารชัดเจน ดอกเบี้ยเป็นธรรม และอนุมัติไวค่ะ

✅ ได้เงินเร็ว ไม่ต้องรอนาน

✅ รถยังมีใช้ตามปกติ ไม่ต้องจอดทิ้งไว้

✅ ไม่ต้องมีคนค้ำ สมัครง่ายผ่านสาขาใกล้บ้าน

✅ ดอกเบี้ยเป็นธรรมตามกฎหมาย ผ่อนได้นาน

สนใจสมัครสินเชื่อรับจำนำรถยนต์ ลองแวะไปสอบถามรายละเอียดได้ที่สาขาเงินเทอร์โบใกล้บ้าน หรือกรอกข้อมูลสมัครที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 15-24% ต่อปี
*เงื่อนไขและการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด